บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
(สำหรับผู้รับจ้าง ผู้ให้บริการ ผู้ขาย คู่ค้า ลูกค้าและ/หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว)
บริษัทได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นโครงสร้างการควบคุม ดูแลและการบริหารจัดการและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในการครอบครองดูแลของบริษัทอันเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” บริษัทจึงประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. คำนิยาม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ท่านซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งต่อไปจะรวมเรียกว่า “บริษัท”
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำสั่งของบริษัท
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบุคคลดังกล่าวเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ข้อ 2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน หรือจากแหล่งข้อมูลอื่น ได้แก่ นายจ้างของท่าน ผู้ว่าจ้างของท่าน หน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ประเภทข้อมูล |
ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดส่วนบุคคล |
1.ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, นามแฝง (หากมี)
|
รายละเอียดการติดต่อ |
1.ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์
|
รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน |
1.ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
|
รายละเอียดการทำงาน |
1.รายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้างและสถานที่ทำงาน
|
รายละเอียดทางการเงิน |
บัญชีเงินฝากของท่านสำหรับจ่ายค่าตอบแทน |
ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย
|
1.รูปภาพ
|
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
|
1.ศาสนา
|
ข้อมูลอื่นๆ
|
1.บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล์ ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์
|
หมายเหตุ ในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลทำให้เกิดความไม่สะดวก ความล่าช้า หรือทำให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับท่านได้อย่างสมบูรณ์ เป็นต้น
ข้อ 4. บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง
บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับท่าน ตลอดจนเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่บริษัทหรือท่านต้องปฏิบัติตาม และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้
4.1 การปฏิบัติตามสัญญา
เพื่อให้ท่านสามารถทำงานที่จ้าง หรือให้บริการ หรือขายสินค้า หรือประสานงานกับบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านหรือนายจ้างของท่านหรือผู้ว่าจ้างของท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการทำงานที่จ้าง หรือให้บริการ หรือขายสินค้า หรือประสานงานกับบริษัท เช่น การประมวลผล การติดต่อ ประสานงาน การแจ้ง การมอบงาน เป็นต้น
4.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด เช่น
4.2.1 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอาญา กฎหมายประกันภัย กฎหมายประกันชีวิต กฎหมายภาษีอากร กฎหมายล้มละลาย กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและกฎหมายคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
4.2.2 กฎหมายอื่นๆ ที่จำเป็น รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
4.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เช่น
4.3.1 เพื่อความจำเป็นต่อการประกอบธุรกิจปกติของบริษัท ตามที่จดทะเบียนไว้ต่อกระทรวงพาณิชย์ เช่น
4.3.1.1 ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย
4.3.1.2 ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต
4.3.2 การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหว CCTV
4.3.3 การสำรวจความคิดเห็น การเข้าร่วมกิจกรรมภายในองค์กร การประกาศผล การรับ-ส่งพัสดุ การวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติ
4.3.4 การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การจัดการข้อร้องเรียน การบริหารจัดการภายในองค์กรและกลุ่มธุรกิจทางการเงิน การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต
4.3.5 ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การทำผิดกฎหมายต่างๆ การตรวจสอบข้อมูลการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือตรวจสอบพฤติกรรมการปฏิบัติงาน การดำเนินคดีในชั้นศาล
4.3.6 การทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
4.4 ความยินยอม
ในบางกรณี บริษัทอาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ดังต่อไปนี้ (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
4.4.1 มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น ใช้ข้อมูลการจดจำใบหน้า หรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน (ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา เป็นต้น) ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านก่อนการทำธุรกรรม เป็นต้น
4.4.2 กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
4.4.3 เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่าน ให้แก่บริษัทในกลุ่มธุรกิจของบริษัท และพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ของบริษัท
4.4.4 การดำเนินการอื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องได้รับความยินยอมของท่าน
4.5 เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน) ซึ่งท่านสามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน (http://www.oic.or.th)
ข้อ 5. ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมอาจถูกเปิดเผย
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
5.1 ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการเงิน ฝ่ายขาย ฝ่ายไอที
5.2 คู่ค้าของบริษัท ได้แก่ บริษัทประกัน บริษัทประกันชีวิต
5.3 ผู้ประกอบวิชาชีพ ได้แก่ ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ เป็นต้น
5.4 หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กรมสรรพากร ศาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
5.5 บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธนาคารผู้อำนวยสินเชื่อ บริษัทประกันภัย/ประกันชีวิต บริษัทติดตามทวงถามหนี้ ผู้ประเมินวินาศภัย นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ผู้สำรวจภัย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โรงพยาบาล ศูนย์กู้ชีพ ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทน (TPA) อู่ซ่อมรถ เป็นต้น
ข้อ 6. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์และความจำเป็นและเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ต้องเก็บตามวัตถุประสงค์หรือหมดความจำเป็นแล้ว บริษัทจะจัดการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยเร็วที่สุด ตามที่กำหนดในมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัท แต่ทั้งนี้บริษัทอาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปอีกไม่เกิน 7 ปี นับแต่วันที่การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสิ้นสุดลง
อนึ่ง กรณีมีเหตุจำเป็นใด ๆ ส่งผลให้บริษัทจำต้องเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปจากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะขยายระยะเวลาออกไปตามความจำเป็น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า
ข้อ 7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในข้อ 7 ท่านมีสิทธิในการดําเนินการ ดังต่อไปนี้
7.1 สิทธิในการถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในกรณีที่บริษัทได้ขอความยินยอมจากท่าน
7.2 สิทธิในการขอดูข้อมูลส่วนบุคคลและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
7.3 สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทอื่นหรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอน
7.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมโดยไม่ได้ขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด
7.5 สิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นท่านได้ เฉพาะในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็น หรือท่านถอนความยินยอม หรือท่านใช้สิทธิคัดค้านตามข้อ 7.4
7.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือหมดความจำเป็นในการเก็บรักษา หรืออยู่ระหว่างการพิสูจน์ตามที่กฎหมายกำหนด
7.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ทั้งนี้ รายละเอียดการใช้สิทธิของท่านในแต่ละประเภทนั้นจะอยู่ในแบบฟอร์มคำร้องที่บริษัทได้จัดทำขึ้น กรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าวในข้อ 7.1
7.7 ท่านสามารถติดต่อขอรับแบบฟอร์มได้ตามช่องทางการติดต่อที่กำหนดไว้ในข้อ 11.
โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคําร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคําร้องขอดังกล่าวข้างต้น
ท่านไม่จําเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการดําเนินตามสิทธิตามข้อ 7.1 7.2 7.4 7.5 7.6 และ 7.7 ยกเว้นการใช้สิทธิตามข้อ 7.3 บริษัทจะคิดค่าใช้จ่ายคำขอละ 30 บาท
ข้อ 8. การใช้คุกกี้
บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้เว็บไซต์ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของบริษัท
การเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยบริษัทสามารถจดจำท่านทราบถึงความชื่นชอบของท่าน รวมถึงอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ (เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรืออีเมล์ช่วยให้บริษัทสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ท่านสนใจยิ่งขึ้น) รายละเอียดโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
ข้อ 9 . มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในเรื่องการเข้าถึงหรือการใช้งาน
ข้อมูลส่วนบุคคล ณ วันที่บังคับใช้นโยบายฉบับนี้ บริษัทได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสารไว้ในตู้เก็บเอกสารและล็อคกุญแจ สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์บริษัทได้จำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยกำหนดพาสเวิร์ดให้บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทเท่านั้นจึงจะมีสิทธิที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดทำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะต่อไป
ข้อ 10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทําการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจําเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการประกาศเป็นหนังสือโดยเร็วที่สุด
ข้อ 11. ช่องทางการติดต่อ
11.1 บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
เลขที่ 54 อาคารบี.บี.บิลดิ้ง ชั้น 5 ห้อง 3501-3502 และ ชั้น 6 ห้อง 3602 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10110
โทรศัพท์ : 02-700-5222
E-mail : customercare.admin@idirectbroker.com
Website: https://www.idirectbroker.com
11.2 บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
เลขที่ 54 อาคารบี.บี.บิลดิ้ง ชั้น 6 ห้อง 3602 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10110
โทรศัพท์ : 02-700-5222
E-mail : customercare.admin@idirectbroker.com
Website: https://www.idirectbroker.com
ข้อ 12. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โทรศัพท์ 02-700-5222
Email : dpo@idirectbroker.com
ทั้งนี้ ให้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2565
ในนามบริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
ประกาศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
ประกาศ วิธีการขอยกเลิกความยินยอมในการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
แบบฟอร์มคำร้องขอยกเลิกความยินยอมในการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด)
แบบฟอร์มคำร้องขอยกเลิกความยินยอมในการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด)