1 เมษายน 2563

พ.ร.บ. และประกันภัยรถยนต์ คุ้มครองมากกว่าเดิม

อย่าลืมนะคะ ปรับเพิ่มความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ เริ่ม 1 เม.ย.2563

ตามที่สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. กำหนดหลักเกณฑ์การชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยปรับเพิ่มความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้ประสบภัยจากรถทุกคน มีหลักประกันความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย อย่างเท่าเทียมกัน และเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน โดยสาระสำคัญของการปรับเพิ่มความคุ้มครองนั้น #ไอไดเร็คท์ ขอสรุปสาระสำคัญสั้นๆ มาฝากเพื่อนๆ อีกครั้ง ดังนี้ค่ะ

#ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไม่มีการปรับเพิ่มค่าเบี้ยประกันภัย

ปรับเพิ่มความคุ้มครองสูงสุด กรณีเสียชีวิต จากเดิม 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท

ปรับเพิ่มความคุ้มครองสูงสุด กรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือสูญเสียอวัยวะ จากเดิม 200,000 - 300,000 บาท เป็น 200,000 - 500,000 บาท
กรณีผู้ประสบภัยต้องใช้กะโหลกศีรษะเทียมได้รับความคุ้มครองสูงสุด 250,000 บาท

#ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1, 2+, 3+) (สำหรับกรมธรรม์ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563)

ปรับเพิ่มความคุ้มครองสูงสุด กรณีบุคคลภายนอกเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง

#จากเดิม ที่ต้องพิสูจน์ความเสียหายที่แท้จริง จ่ายตามฐานานุรูปของผู้ประสบภัยขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือ 300,000 บาท ไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุในกรมธรรม์

#เป็น ไม่ต้องพิสูจน์ความเสียหายที่แท้จริง จ่ายขั้นต่ำ 500,000 บาท – 2,000,000 บาท ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ สำหรับ ส่วนเกิน 2,000,000 บาท ให้พิสูจน์ความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบตามกฏหมาย (ซึ่งอาจต้องมีการปรับเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมสำหรับรถบางประเภทเพื่อให้เป็นไปตามความเสี่ยงภัย)

ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุทางรถ ผู้ประสบภัยจากรถจะได้รับค่าสินไหมทดแทนทั้งสองกรมธรรม์(ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ) รวมกันขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาทต่อราย ค่ะ โดยการปรับเพิ่มความคุ้มครองในครั้งนี้ ทาง คปภ. มีความคาดหวังว่าสัดส่วนการทำประกันภัย พ.ร.บ. จะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีสัดส่วนแค่ 60% ของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในท้องถนน เป็น 90-100% ค่ะ

ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคนะคะ และแอดมินเองก็อยากจะย้ำเตือนเพื่อนๆ ถึงความสำคัญของการทำประกันภัยรถยนต์ทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ เราจ่ายเบี้ยแค่หลักร้อย หลักพัน หรือหลักหมื่น แต่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา อย่างน้อยๆ #ค่าซ่อมรถเรารถเขา ก็จะมีคนช่วยจ่าย หรือหากเหตุการณ์รายแรงที่ไม่มีใครคาดฝัน ทายาทก็จะได้รับ #ค่าสินไหมทดแทนทั้งสองกรมธรรม์รวมกันขั้นต่ำ1ล้านบาท ซึ่ง จริงๆ คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นแน่นอนค่ะ แต่ถ้าเกิดมีวันร้ายๆ ขึ้นมา การมีประกันรถยนต์ไว้ก็ย่อมดีกว่าไม่มีแน่นอนค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คปภ.

--------------------

#เพราะเราห่วงใยคุณทุกช่วงเวลา

#ไอไดเร็คท์ #จริงใจทุกบริการ

#ประกันรถผ่อนได้ #พรบ #ประกันภัยรถยนต์

พ.ร.บ. และประกันภัยรถยนต์ คุ้มครองมากกว่าเดิม

บทความยอดนิยม